ข้อมูลสถิติของการปวดประจำเดือนขึ้นอยู่กับว่าการศึกษาในผู้หญิงกลุ่มใด ข้อมูลหนึ่งพบว่า ในกลุ่มผู้หญิงอายุ 18-45 ปี อาจพบการปวดประจำเดือนได้มากถึงร้อยละ 90 ขณะที่ข้อมูลหนึ่งพบว่า ในวัยรุ่น ผู้หญิงพบการปวดประจำเดือนได้ร้อยละ 90 ขณะที่ข้อมูลหนึ่งพบว่า ในวัยรุ่นผู้หญิงพบการปวดประจำเดือนร้อยละ 60-93 และจาดข้อมูลยังพบอีกว่า มีคนปวดประจำเดือนมากกกว่าคนที่ไม่ปวด
ดังนั้น การปวดประจำเดือนจึงเป็นประดุจเพือนสนิทของผู้หญิง ซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ขอบอกว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา
ทำไม”ปวดประจำเดือน”จึงไม่ใช่เรื่องธรรมดา
ประการหนึ่ง บางคนไม่เพียงปวดมดลูดเท่านั้น แต่ปวดร้าวไปด้านหลัง สะโพก ต้นขา น่อง บางคนตามด้วยอาการคลื่นใส้ อาเจียน ปวดมวนร้าวไปถึงทวารหนักร่วมด้วย
ประการที่สอง ร้อยละ 15 ของคนปวดประจำเดือน จะปวดรุนแรงแม้รับประทานยาแก้ปวดยังปวดไม่หาย จนไม่สามารถไปโรงเรียน หรือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประการที่สามบางคน ไม่ได้ปวดประจำเดือนธรรมดา หรือเรียกว่าปวดแบบปฐมภูมิ(ซึ่งไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดนอกจากความเจ็บปวด เมื่ออายุมากขึ้น แต่งงาน หรือมีลูก อาการปวดแบบปฐมภูมิก็บรรเทาเบาบางลงได้เอง)แต่อาจมีอาการ ปวดประจำเดือนแบบทุติยภูมิอันเกิกจากโรคภัยไข้เจ็บที่เกี่ยวข้องกับมดลูก ปีกมดลูก รังไข่ หรือโรคในอุ้งเชิงกราน ซึ่งต้องได้รับการตรวจรักษาด้วยการผ่าตัด ที่ร้ายที่สุดคือมีโรคมะเร็งแอบซ่อนอยู่ภายใน จนทำให้มีอาการปวดประจำเดือน
แน่นอนค่ะ การปวดประจำเดือนแบบทุติยภูมินี้จะรอช้าไม่ได้ เพราะจะก่อเกิดอันตรายต่อสูขภาพ หรือทำให้เสียชีวิต
ดังนั้น ความรู้เกี่ยวกับการปวดประจำเดือนว่า อย่างไรร่้ายหรือดีอย่างไร แบบไหนปกติ แบบไหนไม่ปกติ แบบไหนรอช้าไม่ได้ รวมถึงการดูแลสุขภาพช่วงปวดประจำเดือน การรับมือการปวดประจำเดือนเชิงลึกฯลฯ จะรวมไว้ใน website นี้
ขอบคุณที่มาจาก หนังสือ
100 วิธีรับมือปวดประจำเดือน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น