เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของกรดแอมิโนจำเป็นฟินิลอะลานีน โดยเป็นส่วนผสมของ D (สังเคราะห์) ครึ่งหนึ่งกับ L
(ธรรมชาติ) อีกครึ่งหนึ่ง จะช่วยสร้างและกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนที่มีลักษณะคล้ายมอร์ฟีนซึ่งมีชื่อเรียกว่า เอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นดั่งยาแก้ปวดตามธรรมชาติที่บรรเทาอาการปวดจากการบาดเจ็บ อุบัติเหตุ และโรคภัยต่างๆ
เอนไซม์บางตัวในร่างกายเราจะคอยทำลายเอนดอร์ฟินอย่างต่อเนื่อง แต่ดีแอล-ฟีนิลอะลานีนจะยับยั้งเอนไซม์เหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยปลดปล่อยให้เอนดอร์ฟินทำหน้าที่ลดอาการปวดต่างๆ ของมันต่อไปได้
ผู้ที่ต้องทนทรมานจากอาการปวดเรื้อรังจะมีระดับการทำงานของเอนดอร์ฟินในเลือดและน้ำเลี้ยงสมองต่ำกว่าปกติ เนื่องจากดีแอล-ฟีนิลอะลานีนช่วยให้ระดับของเอนดอร์ฟินกลับมาเป็นปกติได้ มันจึงช่วยลดอาการเจ็บปวดได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องอาศัยการใช้ยาใดๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ดีแอล-ฟีนิลอะลานีนยังมีความสามารถในการเลือกระงับความเจ็บปวด กล่าวคือ มันช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดขึ้นเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ระงับอาการเจ็บปวดแบบเฉียบพลันทันที (แผลไหม้ แผลมีดบาด เป็นต้น) ซึ่งถือเป็นกลไกสัญชาตญาณการป้องกันตัวตามธรรมชาติ
พบได้บ่อยว่า ฤทธิ์ของดีแอล-ฟีนิลอะลานีนเท่ากับหรือมากกว่าฤทธิ์ของมอร์ฟีนและยาในกลุ่มฝิ่นตัวอื่นๆ แต่ดีแอล-ฟีนิลอะลานีนมีข้อแตกต่างจากยาอื่น คือ
กรดแอมิโนนี้ดีต่อร่างกายคุณอย่างไร
เป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติสำหรับอาการต่างๆ เช่น คอเคล็ด ข้ออักเสบ รูมาทอยด์ ปวดหลังส่วนล่าง ปวดศีรษะไมเกรน ขาและกล้ามเนื้อเป็นตะคริว อาการเจ็บปวดหลังผ่าตัด และอาการปวดตามเส้นประสาท
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ดีแอล-ฟีนิลอะลานีนมีจำหน่ายในรูปเม็ด 375 มก. ขนาดยาที่เหมาะสมต่างกันไปตามอาการปวดของแต่ละคน
6 เม็ดต่อวัน (รับประทานครั้งละ 2 เม็ด 15 นาที ก่อนอาหารแต่ละมื้อ) เป็นการเริ่มต้นรับประทานดีแอล-ฟีนิลอะลานีนที่ดีที่สุด อาการเจ็บปวดควรจะบรรเทาภายในสี่วันแรก ถึงแม้ว่าในบางกรณีอาจต้องใช้เวลานานถึง 3-4 สัปดาห์ (หากอาการไม่ดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วง 3 สัปดาห์แรก ให้รับประทานเป็นเท่าตัวเพิ่มอีก 2-3 สัปดาห์ หากการรักษายังไม่ได้ผล ควรหยุดรับประทาน เนื่องจากพบว่าร้อยละ 5-15 ของผู้ที่ใช้ ไม่ตอบสนองต่อฤทธิ์ต้านการเจ็บปวดของดีแอล-ฟีนิลอะลานีน)
ข้อควรระวัง: ดีแอล-ฟีนิลอะลานีนมีข้อห้ามใช้ในระหว่างตั้งครรภ์และในผู้ที่เป็นโรคฟีนิลคีโตนูเรีย และเนื่องจากมันทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ ผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทาน แต่โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้รับประทานหลังอาหาร
คำแนะนำและความเห็นส่วนตัว
การรับประทานดีแอล-ฟีนิลอะลานีนนั้น อาการปวดมักหายไปภายในสัปดาห์แรก จะสามารถลดขนาดการรับประทานลงทีละน้อยจนถึงขนาดต่ำสุดที่ยังให้ผลการรักษาอยู่ แต่ไม่ว่าขนาดที่รับประทานจะมากน้อยเพียงใด ควรแบ่งรับประทานเป็นหลายมื้อในแต่ละวัน
สำหรับบางคน อาจต้องการรับประทานดีแอล-ฟีนิลอะลานีนเพียงเดือนละหนึ่งสัปดาห์ ในขณะที่บางคนจำเป็นต้องรับประทานต่อเนื่อง (ผมพบสิ่งที่น่าสนใจมากคือ คนไข้บางคนที่ไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวดที่ใช้กันโดยทั่วไป เช่น เอสไพรินหรือแวเลียมเท่าใดนัก กลับตอบสนองต่อดีแอล-ฟีนิลอะลานีนได้ดี)
ที่มา: วิตามินไบเบิล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น